วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กระตุ้นโชคลาภบ้าน

กระตุ้นโชคลาภบ้าน 
ปีนี้ในวันที่ 17 เมษายน 2558 วันที่ 26 เมษายน 2556 และ วันที่ 5 พฤษภาคม  2558  ดาวโชคลาภของบ้านจะอยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาดวงประจำวันเดือนปีและยามจะมาเรียงกันในรูปแบบของดาวคู่ และปีนี้ดาว 8 จะย้ายมาอยู่ทางทิศเหนือ 
ในวันที่ดังกล่าว เวลา 9:00- 10:59 จึงเหมาะที่จะกระตุ้นโชคลาภให้บ้าน 
ซึ่งเราสามารถทำได้ง่ายโดยการจุดเทียนแดง 1 เล่มตั้งในทางทิศเหนือของบ้าน 
กระตุ้นให้เกิดโชคลาภให้แก่ผู้ที่จุด และผู้อยู่อาศัยในบ้าน ขณะจุดอาจนำกระเป๋าสตางค์มาวางข้างๆ เพื่อเรียกทรัพย์เข้า
และเมื่อครบเวลาแล้ว ก็ให้ดับเทียนซึ่งก่อนดับเทียนควรจะหาค้อนยางเคาะพื้นเบาๆ บริเวณที่จุดเทียน ซัก 8 ครั้ง และเอาเทียนที่เหลือไปเก็บไว้ในที่ๆ เป็นมงคล อย่างเช่นหิ่งพระ และพอถึงเวลาในช่วงต้นปีก่อนวันตรุษจีนในวันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ซิ้งเจี่ยที เป็นหนึ่งในประเพณีเก่าแก่ของจีน ซึ่งในปัจจุบันอาจไม่ค่อยได้พบเห็นกันเท่าใดนัก ทั้งนี้เชื่อกันว่า วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ เป็นวันที่เทพเจ้าของจีนจะเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เพื่อไปรายงานความประพฤติของคนในโลกมนุษย์ให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทราบซึ่ง "เจ้า" ที่ว่านี้ เดิมทีหมายถึง "เจ้าเตา" ซึ่งเป็นเจ้าที่สถิตอยู่กับเตาหุงข้าวของบ้านนั้น ๆ
เนื่องจากเจ้าเตารู้ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ของคนในบ้านเป็นอย่างดี ว่าใครไปทำความดีความชั่วที่ไหนมาบ้าง ดังนั้นเจ้าเตาจะนำพฤติการณ์ของคนในบ้านไปรายงานต่อเง็กเซียนฮ่องเต้บนสรวงสวรรค์ ซึ่งการที่เจ้าบ้านจะต้องทำพิธีไหว้เจ้าเตานั้น ก็เพื่อให้เจ้าเตาไปรายงานแต่ในสิ่งที่ดีงามของตนให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทราบ
สำหรับความเป็นมาของเจ้าเตานั้นมีเรื่องเล่าหลากหลาย แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องของ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ซางเซ็ง เดิมทีซางเซ็งเป็นมหาเศรษฐีที่ดินและเจ้าของปศุสัตว์ใหญ่โต มีภรรยาสาวสวยชื่อ โกวติงเซียง ทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุขมาเป็นเวลานาน กระทั่งซางเซ็งได้ หลีไห่ตัง ซึ่งเป็นนางบำเรอมาเป็นภรรยาน้อย เขาจึงแยกทางกับโกวติงเซียงภรรยาคนแรก
แต่หลังจากอยู่กินกับภรรยาคนใหม่ได้เพียง 2 ปี ฐานะของซางเซ็งก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเพียงยาจกที่ไม่มีทรัพย์สินติดตัว เมื่อหลีไห่ตังเห็นว่า สามีที่ไปแย่งเขามาหมดเงินแล้ว นางก็หนีไปแต่งงานใหม่ ปล่อยให้ซางเซ็งกลายเป็นขอทานเร่ร่อนตามลำพัง
วันหนึ่งในฤดูหนาวที่อากาศเย็นจัด ซางเซ็งในสภาพซูบผอมและหิวโซ ได้เดินขอทานผ่านบ้านหลังหนึ่ง เมื่อคนใช้บ้านในนั้นเห็นเข้าจึงเรียกเขาเข้าไปในบ้าน ก่อนจัดข้าวปลาอาหารมาเลี้ยง ซางเซ็งได้ถามถึงเจ้าของบ้านผู้เป็นนายจนทราบว่า เป็นหญิงมีอายุที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือคนยากจน แต่อยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว เขาก็รู้สึกชื่นชมนางอยู่ในใจ
แต่ต่อมาเมื่อเขาได้พบเจ้าบ้านคนนั้น เขาก็จำได้ว่านางคือ โกวติงเซียง ภรรยาคนแรกของเขานั่นเอง ด้วยความสำนึกและละอาย จนไม่กล้าเผชิญหน้ากับนาง แต่ไม่รู้ว่าจะไปซ่อนที่ไหน เขาจึงตัดสินใจคลานเข้าไปในเตาไฟกระทั่งถูกเผาจนเสียชีวิต
เมื่อโกวติงเซียงพบว่า อดีตสามีกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว นางเกิดความสงสารและเศร้าโศก หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ตายตามอดีตสามีไป เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ทราบเรื่องดังกล่าว พระองค์ทรงชมเชยซางเซ็งในความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของเขา ที่สำนึกต่อความผิด พระองค์จึงโปรดประทานให้เขาเป็นเจ้าเตา ขณะเดียวกันผู้คนได้ให้ความเคารพโกวติงเซียงด้วย เนื่องจากนางเป็นผู้มีเมตตาธรรมสูงส่ง
นับตั้งแต่นั้นมา ชาวจีนจะทำพิธีไหว้เจ้าเตาทุกวันที่ 23 และ 24 ในเดือน 12 ของจีน ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่เจ้าเตาจะต้องขึ้นไปรายงานความดีชั่วของคนที่อยู่ในบ้านแต่ละหลังให้เง็กเซียนฮ่องเต้บนสรวงสวรรค์ได้ทรงทราบ ทว่า ในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่ได้หันไปไหว้เทพต่าง ๆ แทนการไหว้เจ้าเตาแล้ว แต่ไม่ว่าจะไหว้เทพหรือเจ้าเตา ก็ยังถือเป็นการส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เหมือนกันนั่นเอง
เล่ามาซะยาวที่จริงก็คือจะให้นำเอาเทียนที่เหลือมาจุดเผาเพื่อส่งเทพเจ้า
https://www.facebook.com/FengShuiStudio168/posts/1574336392837542:0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น